ปัจจุบ้น

สมาคมเครือข่ายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน : ประวัติศาสตร์ของการสร้างความร่วมมือระหว่างธุรกิจและสังคม

ตลอดระยะเวลาเกือบ สองทศวรรษ (พ.ศ. 2550–2568) สมาคมเครือข่ายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (The NETWORK for Sustainable Development Association ต่อไปจะใช้ชื่อย่อว่า The NETWORK แทน) มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจ องค์กรพัฒนาเอกชน และชุมชน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในประเทศไทย ด้วยพันธกิจในการหลอมรวมมิติทาง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม The NETWORK ได้ดำเนินโครงการในหลายช่วงเวลา ซึ่งแต่ละช่วงล้วนเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างสังคมที่แข็งแกร่งและสมดุล

พ.ศ. 2550–2553: วางรากฐานความเป็นพลเมืองที่ดีของภาคธุรกิจ

ในช่วงแรกของการดำเนินงาน The NETWORK ได้ให้ความสำคัญกับ การส่งเสริมแนวปฏิบัติทางธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะผ่านแนวคิด ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร (CSR) และ การสร้างคุณค่าร่วม (CSV) The NETWORK ได้จัดตั้ง ศูนย์กลางองค์ความรู้ด้าน CSR สนับสนุนการอภิปรายเรื่อง แนวคิดสามมิติแห่งความยั่งยืน (Triple Bottom Line: เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม) และจัดทำหนังสือสำคัญ 4 เล่ม ได้แก่:

  • คู่มือจิตอาสาองค์กรธุรกิจสู่ความสุขในวิถีการทำงาน (พ.ศ. ปี 2551)
  • ภูมิทัศน์ CSR ในประเทศไทย (พ.ศ. 2552)
  • คุณธรรมคู๋กำไร: ภาวะผู้นำ (พ.ศ 2553)
  • เป้าหมายของกำไร: คุณค่าแห่งความร่วมมือ (พ.ศ.2554)

ตลอดช่วงเวลานี้ The NETWORK ได้จัดสัมมนากว่า 30 ครั้ง ทั่วประเทศไทยและเอเชีย เพื่อให้ภาคธุรกิจมีเครื่องมือที่สามารถนำไปใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

พ.ศ. 2553–2562: สร้างเมืองน่าอยู่แห่งความสุขด้วยความร่วมมือ

The NETWORK ได้ขยายแนวทางการดำเนินงาน จากการให้ความรู้สู่การปฏิบัติจริง ผ่านโครงการ “เมืองน่าอยู่และมีความสุข” (Livable & Happiness City) ซึ่งดำเนินงานใน 5 จังหวัด ได้แก่ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา, อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี, อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และ กรุงเทพมหานคร โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อ ส่งเสริมผู้นำท้องถิ่น ให้สามารถ ระบุและรักษาทรัพยากรทางสังคมและสิ่งแวดล้อมของตนเอง พร้อมทั้งเสริมสร้าง ความร่วมมือระหว่างหลายภาคส่วน (Multi-Stakeholder Partnerships) ผ่านการสนับสนุนจากภาคธุรกิจในแต่ละพื้นที่ โครงการนี้ช่วยวางรากฐานสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาวในระดับชุมชน และ จัดทำหนังสือภาพ และ เรื่องราว จากการพัฒนาโครงการฯ 1 เล่มคือ “ซิงกอร่า สิงหนคร” บอกเล่าเรื่องราวชุมชนในขุนเขา บนเมือง แหลมสน หัวเขา และ สทิงหม้อ และนำแจกให้ทุกครัวเรือนได้รู้สึกหวงแหนทรัพยสมบัติของท้องถิ่นที่มีประวัติศาสตร์ ที่เป็นรากเหง้าแห่งเมืองที่น่าอยู่แห่งความสุขด้วยพลังของทุกคนในชุมชน

พ.ศ. 2563–2567: ขับเคลื่อนเครือข่ายเศรษฐกิจหมุนเวียนและความยืดหยุ่นของเมือง

จากความท้าทายทางสิ่งแวดล้อมและสังคมที่เพิ่มขึ้น The NETWORK ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางสู่ การสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับระบบ (Systemic Change) โดยให้ความสำคัญกับ การจัดการขยะอาหาร โมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน และความยืดหยุ่นของเมือง (Urban Resilience) ผ่านโครงการสำคัญ ได้แก่

  • พัฒนาโมเดลธุรกิจเพื่อสังคม ที่สามารถนำขยะอาหารกลับมาใช้ประโยชน์และสร้างคุณค่าใหม่
  • ส่งเสริมเกษตรกรรมเมืองแบบหมุนเวียน (Circular Urban Farming) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
  • สนับสนุนโครงการ Bangkok Urban Resilience 2030 เพื่อพัฒนาเมืองให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ดีขึ้น

ในช่วงเวลานี้ The NETWORK ได้ผลิต ตีพิพม์และ จัดจำหน่ายหนังสือ ทั้งหมด 2 เล่ม คือ “Circular Urban Farming Business Journey” เพื่อบันทึกและถ่ายทอดแนวคิดการพัฒนาโครงการฯ ในด้านการทำธุรกิจจากการนำขยะเศษอาหารมาสร้างมูลค่าและสร้างพื้นที่สีเขียว และ “ผู้ประกอบการมือเขียวในแพลทฟอร์มมารีอัฟ” เป็นหนังสือที่เล่าถึงโอกาสสร้างแนวคิดธุรกิจหมุนเวียนในกองขยะ… ที่มากกว่าที่คนคุ้นชิน

เมืองแห่งอนาคตสีเขียว
พลิกโฉมขยะอาหารสู่คุณค่า: โมเดลธุรกิจเพื่อสังคมที่ริเริ่มขึ้น

ใน ปี 2563 The NETWORK ได้ร่วมมือกับ Center One และได้รับทุนสนับสนุนจาก สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ภายใต้โครงการ Greenovative Cities เพื่อพัฒนาโครงการ “Turning Food Waste to Value” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ “Circular Urban Farming” โมเดลธุรกิจเพื่อสังคมที่ใช้หลัก เศรษฐกิจหมุนเวียน ในการนำขยะอาหารกลับมาใช้ประโยชน์ พร้อมพัฒนาพื้นที่ว่างบนหลังคาอาคารและพื้นที่จำกัดให้กลายเป็น “พื้นที่เกษตรกรรมเมืองแบบหมุนเวียน”

จากโครงการนี้ The NETWORK ได้ก่อตั้งและจดทะเบียนนิติบุคคลในชื่อ “Bangkok Rooftop Farming Social Enterprise (BRF SE)” ใน ปี 2564 โดยมีผู้ร่วมก่อตั้งรุ่นใหม่ 7 คน

ปัจจุบัน BRF SE ได้พัฒนา 5 ฟาร์มบนดาดฟ้าแบบหมุนเวียน บนโรงแรม ห้างสรรพสินค้า และอาคารเรียน พร้อมตั้งเป้าขยายสู่ 120+ อาคารในกรุงเทพฯ คิดเป็นพื้นที่เกษตรบนดาดฟ้ากว่า 40 ไร่ เพื่อเป็นต้นแบบของเมืองที่พึ่งพาตนเองทางอาหาร The NETWORK เชื่อมั่นว่า “Circular Urban Farming” ไม่ใช่เพียงแค่การปลูกพืช แต่เป็นการฟื้นฟูธรรมชาติ เชื่อมโยงชุมชน และสร้างระบบอาหารเมืองที่แข็งแกร่งเพื่ออนาคต”

ก้าวต่อไป: ขยายแนวคิดธุรกิจเพื่อสังคมสู่ความยั่งยืน

ในขณะที่ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมนับวันจะยิ่งหนักหน่วงและรุนแรงขึ้น The NETWORK ยังคงมุ่งมั่นที่จะ ส่งเสริมโมเดลธุรกิจเพื่อสังคมที่สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน ผ่าน ความร่วมมือระหว่างหลายภาคส่วน The NETWORK มองเห็นอนาคตที่ธุรกิจ ชุมชน และผู้กำหนดนโยบายสามารถทำงานร่วมกันเพื่อสร้างโลกที่ สมดุลและยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง