คุณครูฟิลิป คอตเลอร์ บิดาการตลาดสมัยใหม่ ได้แนะนำ 10 สิ่งที่นักการตลาดแห่งอนาคตต้องรู้
คุณครูฟิลิป คอตเลอร์ บิดาการตลาดสมัยใหม่ ได้แนะนำ 10 สิ่งที่นักการตลาดแห่งอนาคตต้องรู้ เมื่อมาพูดที่เมืองไทยในเดือนตุลาคม 2562 ที่งาน World Marketing Submit เคน นครินทร์ สรุป 10 สิ่งที่นักการตลาดแห่งอนาคตต้องรู้ จากการสัมภาษณ์ว่า อะไรคือความท้าทายของนักการตลาดในอนาคต กลยุทธ์แบบ 4P (Product, Price, Place, Promotion) ยังคงใช่ได้หรือไม่
1. เลิกคิดแต่ Profit ให้ใส่ใจ People และ Planet
นักการตลาดและองค์กรในยุคนี้ต้องโฟกัส 3P ซึ่งสัมพันธ์กันและกัน นั่นคือ
Profit การทำกำไร
People ความสุขของคนที่เราร่วมงานด้วย
Planet สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
หลังจากนี้ถ้าเราอยากจะทำกำไรที่มากขึ้น ให้บอกทุกคนด้วยว่าดัชนีด้าน People และ Planet คุณทำได้ดีหรือเปล่า นักการตลาดสมัยใหม่ไม่สามารถมองแค่มิติของ Profit อย่างเดียว สิ่งสำคัญคือต้องบาลานซ์ระหว่างการทำกำไรสูงสุด ไปพร้อมกับการทำให้โลกเกิดความยั่งยืน มีหลักฐานยืนยันแล้วว่า เมื่อบริษัททำดีเพื่อสังคม เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อลูกค้า ผลงานเรื่องตัวเลขก็จะดีขึ้นไปด้วย
2. ต้องทำการตลาดที่วัดผลได้ เห็นเป็นรูปธรรม
สิ่งที่เป็นความท้าทายที่สุดในยุคนี้คือ เราคาดหวังสิ่งที่ได้กลับมาจากการทำการตลาดเป็นอย่างมาก ในยุคก่อนถ้าเราโฆษณาผ่านทีวี เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นจากโฆษณาทางทีวีเป็นจำนวนเท่าไร เป็นสิ่งที่วัดผลไม่ได้ แต่ในยุคโซเชียลมีเดีย เราสามารถซื้อโฆษณาในเฟซบุ๊กหรือกูเกิล แล้ววัดผลได้ทันที สามารถทดลองเรื่องของจำนวนงบ กลุ่มผู้ซื้อ เพื่อให้เกิดยอดขายและวัดผลได้จริงๆ
3. ต้องพัฒนาจาก CMO (Chief Marketing Officer) เป็น CGO (Chief Growth Officer)
นักการตลาดควรมีหน้าที่ทำให้บริษัทเติบโต ต้องรู้ว่าอะไรคือปัจจัยหลักที่จะทำให้บริษัทเติบโตได้ เป็นคนที่มีแหล่งไอเดียจำนวนมากในการพัฒนา ทั้งสินค้า คน และธุรกิจ คนที่ทำหน้าที่เป็น CMO จึงควรเปลี่ยนเป็น CGO เพราะนักการตลาดไม่ควรทำแค่เรื่องการตลาด แต่ต้องมีไอเดียในการสร้างนวัตกรรม และนวัตกรรมนั่นเองจะเป็นสิ่งที่ทำให้บริษัทเติบโต นักการตลาดสมัยใหม่จำเป็นอย่างมากที่ต้องรู้เรื่องเทคโนโลยี
4. ต้องเข้าใจคณิตศาสตร์
ในยุคปัจจุบันและอนาคต คุณไม่สามารถมาทำงานการตลาดโดยไม่เข้าใจคณิตศาสตร์ได้อีกต่อไป เพราะการทำการตลาดในโซเชียลมีเดียเกี่ยวข้องกับ Big Data เครื่องมือ การวิเคราะห์ การคาดการณ์ ตัวเลข สมการ การคำนวณ ถ้าคุณเข้าใจเรื่องคณิตศาสตร์ จะทำให้เกิดช่องทางการทำการตลาดแบบใหม่ๆ เจอความเป็นไปได้แบบใหม่ๆ
5. ทำให้ลูกค้าเป็น Brand Ambassador
จากคำถามที่ว่าการตลาดแบบ 4P ยังใช้ได้ในปัจจุบันไหม คำตอบที่ได้ก็คือ ยังใช้ได้ 4P ยังเป็นพื้นฐานที่ดี คุณจะเพิ่มอะไรเข้ามาอีกก็ได้ แต่หัวใจสำคัญคือต้องโฟกัสที่ลูกค้า ทำให้ลูกค้ามีความสุข เกิดความพึงพอใจที่จะบอกต่อให้กับคนอื่นๆ เราเรียกคนกลุ่มนี้ว่า Brand Ambassador คนที่โฆษณาให้ฟรีๆ ภูมิใจในสินค้าของเรา นั่นคือเป้าหมายสูงสุดของการทำการตลาด
6. ระแวดระวังว่าอะไรจะมาทำลายล้างธุรกิจของเรา
สำหรับธุรกิจไทยจำเป็นต้องดูบริบทว่ากำลังจะมีอะไรมาทำลาย หรือ Disrupt ในธุรกิจของคุณ ต้องตั้งคำถามอย่างสม่ำเสมอ แล้วถ้าเป็นไปได้ ให้ Disrupt ตัวเองก่อนถูก Disrupt และพร้อมที่จะสร้างนวัตกรรมให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
7. พัฒนาวันละนิดในทุกๆ วัน
อาจจะยากเกินไปหากต้องพัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดด ฟิลิป คอตเลอร์ ยกตัวอย่าง Kaizen หลักคิดจากญี่ปุ่น ที่ให้พัฒนาตัวเองอย่างละนิดในทุกๆ วัน ดีขึ้นในทุกๆ วัน หรือทำให้บริษัทดีขึ้นทุกๆ วันไม่ว่าจะมุมไหนก็ตาม เพื่อพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลง เช่นบริษัทอย่าง Toyota พวกเขาไม่กลัวการแทนที่จากหุ่นยนต์หรือ AI เพราะสามารถพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นได้ในทุกๆ วัน ทำให้ทักษะต่างๆ ดีขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องความมั่นคงในอาชีพ
8. หมดยุค Mass Marketing มุ่งสู่ Very Much Target Marketing การทำการตลาดต้องเจาะจงมากขึ้น ต้องมีเซกเมนต์ มีความเฉพาะตัวบุคคลมากขึ้น ต้องนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้เราเข้าใจและตอบโจทย์รายบุคคลมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นการเข้ามาของ Internet of Things ตู้เย็นอัจฉริยะจะสามารถสั่งนมให้คุณเองได้ เมื่อนมคุณหมด โดยที่คุณไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ นักการตลาดต้องสนใจในเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น VR, Smart Watch ฯลฯ เพื่อทำการตลาดให้เหมาะกับรายบุคคล
9. ทำตัวเป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิต
ไม่เฉพาะนักการตลาดถึงควรเป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิต ทุกๆ คนสามารถนำไปใช้ได้ เมื่อถาม ฟิลิป คอตเลอร์ ว่า เขาคิดถึงเรื่องการเกษียณบ้างไหม คำตอบก็คือ ไม่ เขายังอยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ เช่น อยากเรียนเล่นเปียโน อยากท่องเที่ยว อ่านหนังสือ และทำให้ชีวิตผู้คนดีขึ้น
10. การให้ถือเป็นการได้รับที่ดีที่สุด
ปรัชญาชีวิตจาก ฟิลิป คอตเลอร์ ที่อยากส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ คือ
1.ให้ทำตามสัญชาตญาณของคุณ ไม่ควรโฟกัสที่งานและสิ่งที่ให้เงินคุณเยอะๆ เพียงอย่างเดียว
2. การให้คือการได้รับที่ดีที่สุด ที่สุดแล้วไม่ใช่แค่ความพอใจส่วนตัวอย่างเดียว สุดท้ายแล้วเราก็จะได้สิ่งนั้นกลับคืนมา
การทำโฆษณาที่ดีที่สุดคือการทำให้ผู้บริโภคพอใจสูงสุด อาจจะไม่ใช่เรื่องของ 4P อย่างเดียว แต่คืออีก 2P ที่นักการตลาดต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งในอนาคตคือ People และ Planet
ขอบคุณ The Standard สำหรับการสรุปครั้งนี้